เบรนท์ฟอร์ดฟอร์มดุ! ไล่สอนบอลลิเวอร์พูลยับ 3-1 ส่ง “หงส์แดง” แพ้ลีก 4 นัดติดเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
ลิเวอร์พูล ของ อาร์เน่ สลอต ต้องเจอกับฝันร้ายต่อเนื่อง หลังบุกไปพ่าย เบรนท์ฟอร์ด 1-3 ที่สนามจีเทค คอมมิวนิตี้ สเตเดียม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือเป็นการแพ้ในพรีเมียร์ลีก 4 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 และที่สำคัญคือรูปเกมเป็นฝ่ายถูกเจ้าถิ่นไล่ขยี้เกือบตลอด 90 นาที
แม้ก่อนหน้านี้ “หงส์แดง” จะเพิ่งบุกชนะ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ในศึกยูโรปาลีกเมื่อกลางสัปดาห์ แต่เกมนี้พวกเขากลับถูก เบรนท์ฟอร์ด ของ โธมัส แฟรงค์ เล่นงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกโยนยาวและทุ่มไกลจาก ไมเคิล คายอดี้ ที่กลายเป็นอาวุธเด็ดจนแนวรับลิเวอร์พูลปั่นป่วนตั้งแต่ต้นเกม
เริ่มเกมได้เพียง 5 นาที เจ้าบ้านออกนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะทุ่มไกลของ คายอดี้ ที่ถูก คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ โหม่งเช็ดให้ ดองโก้ อูอัตตาร่า วอลเลย์เต็มข้อส่งบอลเสียบตาข่ายให้ เบรนท์ฟอร์ด นำ 1-0 ท่ามกลางความมึนงงของแนวรับทีมเยือน
เบรนท์ฟอร์ดเดินหน้ากดดันต่อเนื่อง และมาได้ประตูที่สองในช่วงทดเวลาครึ่งแรก เมื่อ มิกเกล ดัมส์การ์ด จ่ายทะลุช่องสุดสวยให้ เควิน ชาเด้ หลุดไปยิงผ่านมือ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี เข้าไปอย่างเด็ดขาด ขณะที่ อิบราฮิมา โกนาเต้ ถึงกับหยุดวิ่งกลางทาง
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ได้ประตูตีไข่แตก 1-2 ช่วงทดเวลาครึ่งแรกจากจังหวะที่ คอเนอร์ แบรดลีย์ เปิดเข้ากลาง และเป็น มิลอส เคอร์เคซ วิ่งมาซัดเสียบเสาแรกเรียกความหวังคืนให้ทีม ก่อนหมดครึ่งแรกท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนเจ้าบ้านที่มองว่าผู้ตัดสินปล่อยให้เกมยาวเกินเวลา
เข้าสู่ครึ่งหลัง เบรนท์ฟอร์ดยังเหนือกว่า และมาได้ประตูหนีเป็น 3-1 จากจุดโทษของ อิกอร์ ติอาโก้ หลัง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ไปเตะใส่ อูอัตตาร่า ในกรอบเขตโทษ
หลังเสียประตู สลอต แก้เกมด้วยการส่งแนวรุกเพิ่มหลายราย รวมถึง เฟเดริโก้ เคียซ่า และ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ที่ได้โอกาสยืนตรงกลางอีกครั้ง แต่ทั้งคู่ยังไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ โดยเฉพาะ เวิร์ตซ์ ที่ยังไม่สามารถยิงหรือแอสซิสต์ได้เลยในลีก ทั้งที่ค่าตัวสูงถึง 116 ล้านปอนด์
ลิเวอร์พูลพยายามบุกเต็มที่และมาได้ประตูปลอบใจในนาทีสุดท้ายจากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บบอลจาก โดมินิก โซบอสซ์ไล ก่อนยิงแสกใต้คานเข้าไปสุดสวย เป็นประตู 3-1
แม้จะมีช่วงทดเวลายาวและความตื่นเต้นในช่วงท้าย แต่ เบรนท์ฟอร์ด ยังคงควบคุมเกมได้ดีกว่า และเก็บสามแต้มอย่างสมศักดิ์ศรี ขณะที่ ลิเวอร์พูล ต้องกลับไปแก้ไขด่วน หลังแนวรับยังมีปัญหาชัดเจน โดยเฉพาะการรับมือบอลยาวและลูกทุ่มไกลที่กลายเป็นจุดอ่อนสำคัญในฤดูกาลนี้
ชัยชนะของ เบรนท์ฟอร์ด ทำให้พวกเขาขยับหนีโซนตกชั้น ส่วน ลิเวอร์พูล ของ สลอต ยังจมอยู่ในช่วงวิกฤตฟอร์มตกแพ้ 4 เกมรวดในลีก — สะท้อนให้เห็นว่าทีมยังต้องการเวลาอีกมากในการปรับตัวภายใต้ผู้จัดการทีมคนใหม่.